ALISHAN ,Taiwan

นี่เป็นครั้งแรกของการมาประเทศไต้หวันของเรา หลังจากที่เล็งเอาไว้อยู่นาน เอาจริงๆเราแทบไม่รู้จักเขาอาลีซานเลย และคิดว่าถ้าเพื่อนไม่ชวนมาก็คงไม่ได้มา แต่คุณพระ!! พอได้มาจริงๆ ถึงกับต้องหันไปบอกเพื่อนว่า "เห้ยแก... ขอบใจมากที่ชวนมา !! "

มันคุ้มค่ากับการนั่งเมารถ วนขึ้นเขา3ชั่วโมง บนเส้นทางสุดโหด มีทั้งความชัน และโค้งหักศอกหลายตลบ แต่เมื่อขึ้นมาเจอกับอภิมหาป่า เขียวขจี ชุ่มฉ่ำ บอกได้คำเดียวเลยว่า โคตรคุ้ม!!

อาลีซาน Day 1

เราเริ่มทริปไต้หวันหลังจากลงเครื่องที่สนามบินเถาหยวน ด้วยการนั่งรถไฟความเร็วสูงหรือHSR ไปลงเจียอี้ (Chiayi / 嘉義) เพื่อประหยัดเวลา และต่อด้วยการนั่งShutter busไปอาลีซาน ใช้เวลาประมาน3ชั่วโมงกว่าๆ ในการวนขึ้นเขา

รถบัสที่เราขึ้นมีแค่กลุ่มเรา 4 คน กับนักท่องเที่ยวคู่รักอีก1คู่ ถือว่าค่อนข้างเป็นส่วนตัวมาก เราเลยเดินเล่นถ่ายรูปได้ทั่วรถ

แต่เดินไปได้ซักพักก็ต้องกลับมานั่งที่เดิม เพราะเริ่มเมารถ คนที่เมารถง่าย แนะนำว่าควรพกยาดม ยาลม ยาหม่อง และถุงพลาสติกมาด้วยนะ

บรรยากาศระหว่างทาง เป็นภูเขาคล้ายๆกับทางภาคเหนือบ้านเรา สลับกับชุมชนเล็กๆ

รถบัสจะจอดตามป้ายต่างๆ อาลีซานเป็นป้ายสุดท้าย ระหว่างเดินทางก็นอนหลับยาวๆกันได้เลย ไม่ต้องกลัวว่าจะเลยป้าย

แต่วิวข้างทางก็สวยจนทำให้เราอดหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปไม่ได้ นั่งถ่ายรูปเพลินๆ 3ชั่วโมงก็ถึงแล้วค่ะ

มีจอดแวะพักรถ ให้เดินลงไปซื้อของด้วยแฮะ

หลังจากที่รถบัสพาเราขึ้นมาถึงจุดจอดรถบริเวณอุทยานแห่งชาติอาลีซาน ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายปลายทาง พวกเราก็เดินวนไปวนมาเพราะหาโรงแรมไม่เจอ ตำแหน่่ง Google Maps ที่ได้มาก็คลาดเคลื่อน ทำเอาเราเดินลากกระเป๋าจนเหนื่อย ได้เจ้าหน้าที่อุทยานใจดีบอกทางให้

ในที่สุดเราก็ได้เช็คอิน เอากระเป๋าไปเก็บที่โรงแรมเรียบร้อย (เราพักที่โรงแรม Dafong ค่ะ) จริงๆโรงแรมอยู่ไม่ไกล แต่ต้องเดินลงเขาไปอีกหน่อย เราก็เลยหากันไม่เจอ

ที่นี่มีร้านอาหารหลายร้านให้เลือกชิมกันตามอัธยาศัย ร้านอาหารส่วนมากรสชาติแบบพื้นเมืองง่ายๆ อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกันเท่าไหร่ ด้วยอุณหภูมิ16 องศา เราเลยได้ชาบูร้อนๆ สไตล์ไต้หวัน คล้ายๆสุกี้ ชาบูบ้านเรา แต่จะมีกลิ่นผักเครื่องเทศหน่อยๆ และน้ำจิ้มรสชาติแปลกๆ พอประทังชีวิตไปได้หนึ่งมื้อ

เราไม่มีร้านแนะนำ ต้องลองเลือกๆกันเอง ถูกชะตาร้านไหนก็จัดเลย เราว่าการได้ลองกินอาหารพื้นเมืองของประเทศนั้นๆ ถือเป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งในการเดินทางนะ อาหารที่เค้าว่าเป็นออริจินัลทั้งหลาย ทั้งไข่ต้มใบชา มาม่า หรือแม้กระทั่งเบียร์ เรากวาดมาลองหมดเลยค่ะ555

มาทั้งทีต้องลองให้รู้กันไป คือด้วยอากาศหนาวๆแบบนี้ กินอะไรยี่ห้อไหนก็อร่อยค่ะ

มาอาลีซาน ต้องขึ้นรถไฟ!!

The Alishan Forest Railway ไฮไลท์ของอาลีซาน ก็คือการนั่งรถไฟชมธรรมชาติ เป็นเส้นทางรถไฟที่สวยติดอันดับโลกด้วยนะ เราว่ามันสวยตั้งแต่สถานีรถไฟเลยหล่ะ ตัวสถานีเดิมสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1981 แต่เนื่องจากได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี1999 จึงได้ทำการบูรณะขึ้นมาใหม่ ในปี 2007 โครงสร้างหลักของตัวสถานีทำด้วยไม้ ออกแบบโครงสร้างแบบArchโดยใช้เสาเป็นไม้ทั้งต้น ผสมกับโครงสร้างเหล็กและPlatformเป็นพื้นคอนกรีต แต่ยังคงใช้รางรถไฟแบบเก่า ได้อารมณ์ไปอีกแบบ

รถไฟจะจอดตามสถานี เราเลือกขึ้นจากสถานีAlishan ไปลงสถานี Chaoping (แทนที่จะลงสถานี Sacred Tree Stationซึ่งเป็นสถานีปลายทาง)

เพื่อเดินสัมผัสกับธรรมชาติไปตามทางเรื่อยๆ ผลสุดท้ายคือ หลงค่ะ!!

เราตกรถไฟรอบสุดท้าย และต้องเดินเท้ากลับมายังสถานีAlishan กว่าจะออกจากป่ากันได้ เล่นเอาเหนื่อยหอบกันเลยทีเดียว - -"

สูดกลิ่นป่าฝน ที่อาลีซาน!!

ตอนที่เราไปอยู่ในช่วงต้นเดือนกันยายน ตรงกับฤดูฝนพอดี อุณหภูมิประมาน 16-13 องศา โชคดีที่เราเจอแค่ฝนปรอยๆ พอให้ได้บรรยากาศป่าฝน มีกลิ่นไอดินหน่อยๆ ถ้าอยากให้ได้ฟิลลิ่ง แนะนำให้ลองเดินหลับตาแล้วสูดหายใจลึกๆ คือมันแบบโคตรป่า ทั้งกลิ่นดิน กลิ่นป่าสน เสียงนกร้อง เสียงลำธาร สูดหายใจรับโอโซนกันเข้าไปให้เต็มปอด เหมือนได้เติมพลังชีวิตไปอีก10 ปี

สังเกตว่าการสร้างทางเดินของที่นี่ จะแทรกตัวอยู่ระหว่างต้นไม้ และเก็บต้นไม้ไว้ไม่ตัดทิ้ง เพื่อไม่ให้เป็นการทำลายธรรมชาติ น่าชื่นชมมากค่ะ

อาลีซาน Day 2

ไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของการมาเขาอาลีซาน คือการนั่งรถไฟไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขา ไปยังสถานี Zhushan Line (祝山線)

แต่เป็นความเข้าใจผิดของพวกเราเอง เกี่ยวกับรอบรถไฟ ทำให้ตกรถไฟรอบแรกของวัน!! (อีกแล้ว) อุตส่าห์ตื่นไปรอตั้งแต่ ตี5

อ่าวเฮ้ยย... ไม่ทันค่ะ!! 5555

เราเลยได้แต่เก็บภาพบรรยากาศยามเช้าจากหน้าต่างห้องพัก บังเอิญว่าวันนี้หมอกลงจัด ถึงขึ้นไปก็คงไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นอยู่ดี

หลังจากที่เรากินอาหารเช้า เก็บกระเป๋า เช้คเอ้าท์เรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่เราต้องรีบเดินทางกลับเข้าไทเป วิธีการเดินทางคือ นั่งรถShutter bus แบบเดียวกับขามา รถบัสจะจอดอยู่หน้าเซเว่น ขากลับคนจะเยอะนิดนึง แต่ก็พอมีที่นั่งกันได้อย่างสบายๆ

บ๊ายบาย...อาลีซาน

บรรยากาศยามเช้าระหว่างทางลงเขา มีหมอกค่อนข้างหนาตัดกับสีเขียวของป่า เราเปิดเพลงในมือถือฟังชิลๆไปเรื่อยๆ ดื่มด่ำกับบรยากาศริมสองข้างทาง ที่สวยไม่แพ้บนยอดเขา พอนั่งรถมาได้เกือบครึ่งทาง ฝนก็ตกลงมา ยิ่งได้บรรยากาศเข้าไปอีก ใครมาคนเดียวนี่รับรองงานนี้ต้องมีเหงากันบ้างแหละ

จบการเดินทางเข้าป่าของเรา สูดโอโซนกันให้ชุ่มปอดแต่เพียงเท่านี้ รีวิวต่อไปจะพาเข้าเมืองบ้าง ขอให้ทุกคนสนุกกับการเดินทางไปกับเราค่ะ :)

สรุปคือ อาลีซาน น่าเที่ยวมากจริงๆ ควรค่าแก่การไปเยือนซักครั้งในชีวิต ไต้หวันไม่ได้มีแค่ Sun Moon Lake เท่านั้นนะ อาลีซานก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่อยากให้ทุกคนลองมาดู การเดินทางไม่ได้ลำบากอย่างที่คิด ของจริงสวยกว่าในภาพเยอะ

ติดตามการเดินทางของเราได้ที่ #turtlearoundtheworld

ขอบคุณค่ะ